สิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใด ของมงคลแบบไหนเหมาะกับเราและร้าน และจะบูชาอย่างไรเพื่อเสริมสิริมงคล เสริมความปังจนขายดิบขายดี วันนี้เราจะเล่าให้ฟัง
1.เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย
เมื่อเข้าสู่ช่วงตุรษจีนทุกๆ ปี เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย คือ เทพเจ้าองค์ต้นๆ ที่คนจีนส่วนใหญ่จะบูชาเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตและธุรกิจ เพราะเชื่อว่าบูชาแล้วจะมีกินมีใช้ ร่ำรวย มั่งคั่ง
“เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย” เทพเจ้าด้านการเงินและโชคลาภ โดยคำว่า “ไฉ่ซิง” แปลว่า “ทรัพย์สิน” หรือ “สิริมงคล” ส่วนคำว่า “เอี๊ย” แปลว่า “เทพเจ้า” บางตำนานเล่าว่าเป็นบุคลลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก
เคล็ดลับการบูชา
ตามความเชื่อของคนจีนจะไหว้ในวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน หรือตรุษจีน เวลา 23.00 – 01.00 น. ตั้งโต๊ะหันหน้าเข้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไหว้ด้วยเทียนแดง 1 คู่ ชุดกระดาษเงินกระดาษทอง น้ำชา 5 ที่ ผลไม้หลากสีสัน 3 – 5 อย่าง อาหารเจ ขนมอี๋และเจฉ่าย 5 ชนิด หรือผัก 5 ชนิดพร้อมนำเอาสมุดบัญชี กระเป๋าสตางค์หรือที่เก็บใช้เก็บเงินมาวางรวมด้วยเชื่อว่าจะยิ่งเสริมดวงการเงิน
2.แมวกวัก
ขยับมาที่ประเทศญี่ปุ่นที่มี แมว เป็นสัตว์เลี้ยงมงคลตามความเชื่อตั้งแต่สมัยเอโดะ “แมวกวัก” ที่เราเห็นกันเป็นน้องแมวสีขาว ยกมือขึ้นมาหนึ่งข้าง ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “มาเนกิเนะโกะ (Maneki Nek) แมวกวักนำโชค วันนี้ขอยกมาเล่าให้ฟัง 1 ตำนาน ตำนานนี้เล่าว่ามีหญิงชรายากจนคนหนึ่งมีแมวแต่ไม่สามารถเลี้ยงแมวได้ จำเป็นต้องเอาแมวไปปล่อย วันหนึ่งแมวมาเข้าฝันให้ปั้นรูปแมวขายแล้วจะโชคดี เธอทำตามที่แมวมาบอกจนกลายเป็นธุรกิจที่รุ่งแรือง และแล้วแมวที่จำใจต้องปล่อยตัวนั้นก็กลับมาหาเธอ จึงกลายเป็นความเชื่อต่อกันมาว่า รูปปั้นแมวกวัก จะนำมาซึ่งความโชคดี มีเงินมีทอง และนิยมมาตั้งที่ร้านค้ากันปัจจุบัน
เคล็ดลับการบูชา
- ไม่มีการไหว้หรือบูชาเป็นพิเศษสำหรับแมวกวัก แต่สีและมือที่ใช้กวักเสริมเรื่องโชคได้เจาะจงมากขึ้น เช่น
- แมวกวักสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ช่วยให้โชคดี
- แมวกวักสีทอง หมายถึง เสริมเรื่องโชคลาภด้านการเงิน ช่วยให้ร่ำรวย
- กวักแขนข้างซ้าย หมายถึง ช่วยเรียกแขกหรือลูกค้า กิจการรุ่งเรือง
- กวักแขนข้างขวา หมายถึง ช่วยดึงดูดเงินทองและโชคลาภต่างๆ
- กวักแขนทั้งสองข้าง หมายถึง ช่วยเรียกทั้งโชคลาภ และลูกค้าให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมๆ กัน
3.พระสังกัจจายน์
มาถึงความเชื่อในฝั่งพระพุทธกันบ้าง “พระสังกัจจายน์” หรือ “พระมหาสังกัจจายนเถระ” เป็นพระอรหันองค์สุดท้ายในสมัยพระพุทธกาล แต่ก่อนท่านมีรูปร่างงดงาม ผิวพรรณดี จนเป็นที่ต้องตาต้องใจ น่าหลงใหลของหญิงสาว ท่านจึงขอกับพระพุทธเจ้าแปลงกายให้มีรูปร่างให้อ้วนพุงพลุ้ย แต่ยังมีใบหน้าอวบอิ่มผ่องใสเต็มไปด้วยโชคลาภบารมี เวลาเดินทางไปกับคณะสงฆ์ก็มักไม่ขาดแคลนเรื่องอาหารเวลาบิณฑบาตร ทำให้พระสังกัจจายน์กลายเป็นสัญลักษณ์พระอรหันแห่งความสมบูรณ์ ความมั่งคงและโชคลาภ
เคล็ดลับการบูชา
จุดธูป 3 ดอก พร้อมดอกไม้กลิ่นหอมหรือดอกไม้สีขาวจะยิ่งดี 7 ดอก
และเชื่อกันว่าหากปิดทองที่ท้องของ “พระสังกัจจายน์” จะทำให้มีเงินทองไหลมาเทมา ส่วนตอนขอขอพร ให้ใช้มือขวาลูบที่ท้องของพระสังกัจจายน์เป็นวงกลม หมุนตามเข็มนาฬิกา เชื่อกันว่าพรนั้นจะสำเร็จสมหวัง
4.ปี่เซียะ
วนกลับมาที่จีนกันอีกรอบ เมื่อญี่ปุ่นมีแมวเป็นสัตว์มงคล จีนก็มีเช่นกัน นั่นคือ “ปี่เซียะ” สัตว์เทพมงคล ความหมายหลักของปีเซียะ คือการขจัดสิ่งชั่วร้าย ปกป้องภยันอัตราย และส่งเสริมให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรื่อง มีชื่อเสียง มีลาภยศ โชคลาภ เราสามารถขอพรได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องที่ไม่ดี ปี่เซียะลักษณะ อ้าปากกว้าง ไม่มีรูทวารหนักและเบา ทำให้โชคลาภที่เข้ามาได้ง่าย ไม่รั่วไหลออกไป
เคล็ดลับการบูชา
ก่อนนำปี่เซียะมาเข้าบ้านหรือเข้าร้าน จะต้องทำการจุดธูปบอกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในก่อน หลังจากนั้นสวดบูชาปีเซียะ และแล้วลูบตำแหน่งสำคัญของปี่เซียะ 3 จุด ได้แก่ ท้อง, หัว, หลัง โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมเรื่องความร่ำรวยอุดมสมบูรณ์, ความสมหวัง, บารมีโชคลาภ สิ่งที่ไม่ควรทำกับปี่เซียะ คือห้ามลูบปากปี่เซียะ เพราะจะทำให้เงิน ทองรั่วไหล หากบูชาแล้ว ห้ามยกปี่เซียะให้ผู้อื่นไปบูชา เพราะถือเป็นวัตถุมงคลเฉพาะบุคคล ห้ามให้ผู้อื่นมาลูบปี่เซียะโดยเด็ดขาด และห้ามพกพาปี่เซียะไปงานอวมงคล
5.ไซดักทรัพย์
ปิดท้ายด้วยเครื่องรางตามความเชื่อของไทยเรา มีที่มาจาก ไซ เครื่องดักปลาของเกษตรกร กลายเป็นวัตถุมงคล ที่เรียกว่า “ไซดักทรัพย์” เมื่อนำมาแขวนจะช่วยดักทรัพย์ ดักเงิน ดักทอง ส่งเสริมเรื่องโชคลาภ และช่วยให้ความร่มเย็นในเรื่องของที่อยู่อาศัย สมัยก่อนจะใช้ไซจริงที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หากเกิดการชำรุดจะนำมาบูชาเป็นเครื่องราง เพราะเป็นไซที่ดักสิ่งมีชีวิตมาแล้ว จะมีความขลังและพลังอำนาจ ส่วนในปัจจุบันมีการทำขึ้นมาเฉพาะเป็นไซดักทรัพย์ ผ่านพิธีกรรมเพื่อการบูชา
เคล็ดลับการบูชา
ไม่มีบทสวดหรือแนวทางบูชาที่เป็นกิจลักษณะ อาจจะสวดคาถาตามความเชื่อของผู้บูชาเอง ส่วนการแขวนไซดักทรัพย์ ต้องแขวนไว้บนที่สูง หันปากไซอออกไปทางนอกบ้าน หรือร้านค้า เปรียบเสมือนการดูดทรัพย์เข้ามาไว้ในไซ อาจจะมีการใส่เงินไว้ในไซแก้เคล็ดเพื่อเรียกเงินเรียกทองด้วยก็ได้ ห้ามแขวนแนวขวางหรือหันหลังให้ประตู เพราะพลังของไซจะไม่เกิดผล
ที่มา : dezpax.com