ชีวิตที่ดี สำหรับแต่ละคน คงให้คำนิยามไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคนให้คุณค่ากับอะไร
บางคนอาจให้คุณค่ากับการมีการงานดี มีชื่อเสียง มีเกียรติยศ เป็นคนเด่นดังในสังคม
บางคนอาจให้คุณค่ากับการมีอำนาจ มีคนยำเกรง มีคนคอยเอาอกเอาใจ พินอบพิเทา
บางคนให้คุณค่ากับเรื่องมีฐานะ ร่ำรวย
บางคนให้คุณค่ากับเรื่องการมีเพื่อนมากมาย มีสังคมที่รักเรามากมาย
บางคนให้คุณค่ากับการมีครอบครัวที่อบอุ่น
บางคนให้คุณค่าให้กับการมีแฟน มีคู่ชีวิต
บางคนให้คุณค่ากับการมีชีวิตที่เป็นอิสระ ทำอะไรก็ได้อย่างที่อยากทำ
บางคนให้คุณค่ากับการมีชีวิตที่สันโดษ
จริงๆ สิ่งที่ทุกคน ใฝ่ฝันย่อมเป็นสิ่งดีๆ ทั้งนั้น
ถ้าเราได้ (อย่างที่หวัง) เราคงมีความสุข
แต่จะมีสักกี่คนที่ได้สมหวังดังใจหมาย
หรือ บางครั้งพอได้มาแล้ว แรกๆ ก็ฟินดี
แต่สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าที่ได้มา เฉยๆ ไม่ตอบโจทย์แล้ว
อยากได้มากกว่านี้
จึงพบว่า หลายคนมีชีวิตที่ไม่เคยรู้สึกสมหวังสักที
และมองว่าชีวิตที่ตนมียังไม่ดี สักที
ยิ่งถ้าชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น ยิ่งรู้สึกขาดพร่องไปกันใหญ่เลย
อย่างนั้นแล้ว ชีวิตที่ดี จริงๆ คืออะไร
ในทางจิตวิทยา
ชีวิตที่ดี คือความรู้สึกที่เต็มอิ่มภายใน ไม่รู้สึกขาดพร่อง หรือต้องคอยโหยหาอะไรมาเติมอยู่เรื่อยๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว การมีอะไรภายนอก อาจไม่ใช่คำตอบ
แม้ว่าสิ่งภายนอก อาจเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เรารู้สึกเต็มอิ่มภายใน
แต่ไม่ทั้งหมด เพราะหลายครั้ง เราคงเห็นแล้วว่า
ชีวิตเรามีทุกอย่างที่น่าจะมีความสุข ที่น่าจะพึงพอใจในชีวิตได้สักที
แต่เรากลับยังไม่มีความสุข
หรือเราอาจเคยเห็นคนอีกหลายคนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมในสายตาเรา
เขากลับไม่มีความสุข และ ไม่หยุดดิ้นรน ที่จะหาอะไรมาเติมเต็มใจเขาอยู่ตลอดเวลา
ทั้งเหนื่อย ทั้งทุกข์ แต่เขาก็หยุดไม่ได้
หรือบางที เขาเหล่านั้น ยังพร่ำบ่นว่า ชีวิตมันแย่!!?
“ชีวิตที่ดี…..ไม่ใช่ชีวิตที่มีทุกอย่างโอเค
แต่เป็นชีวิตที่โอเค…….ในทุกอย่างที่มี”
เมื่อเราสามารถ โอเค ในทุกอย่างที่มี ความเต็มอิ่ม จากภายใน เกิดขึ้นได้เอง
โดยไม่ต้องอาศัยองค์ประกอบภายนอกมากมาย
แม้องค์ประกอบภายนอกมีผลอยู่บ้าง แต่ถ้าเราไปยึดติดกับสิ่งดีๆเหล่านี้มาก
สิ่งดีๆ เหล่านี้ จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราทุกข์
ทั้งชีวิตตัวเองในอดีต….
ทั้งชีวิตตัวเองในปัจจุบัน….
แน่นอนว่า
เราจะเกิดความรู้สึกดีๆ กับ ชีวิตของตนเองในอนาคตแน่นอนค่ะ
เมื่อความรู้สึกพอใจในชีวิตเกิดขึ้น….
เมื่อนั้นชีวิตที่ดี ก็เกิดขึ้นในจังหวะนั้น จังหวะที่เรากลับมาพอใจในชีวิตของตัวเรา
แม้หลายคนอาจมีอดีตที่ไม่อยากจดจำ หรือเจ็บปวด
แต่การที่เราจมและเห็นมันแต่แง่ลบ
ทำให้ใจเราเศร้าหมองไปเปล่าๆ ค่ะ
แต่ถ้าเราสามารถที่จะยอมรับมันอย่างที่เป็น
ชื่นชมกับสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ (ซึ่งเราอาจเคยมองข้ามไป)
และเห็นคุณค่าในตัวเอง ในการเรียนรู้ชีวิต
เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายเท่าไหร่
เราผ่านมันมาได้
เราลองมองมาที่คุณค่าในตัวเรา ในพลังชีวิต
และความตั้งใจดีที่อยู่ภายในตัวเรา รวมถึงคนรอบข้าง
และนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ที่เราจะทำให้กับตัวเราเอง ในภาวะนั้นๆ
และเราก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง (ที่มีค่า) จากมัน
ในทางตรงข้าม ถ้าเราไม่เคยพอใจอะไรในชีวิต
ต่อให้มีอะไร ต่อมิอะไรมากมาย
แม้คนภายนอกจะเฝ้าพร่ำบอกว่าดีแล้ว โอเคมากแล้ว
เราก็ไม่เคยรู้สึกว่าดีสักที… ชีวิตเราก็เลยไม่เคยดีสักทีค่ะ
ดังนั้น
“ชีวิตที่ดี ไม่ใช่ชีวิตที่มีแต่สิ่งดีๆ นะคะ
แต่เป็นชีวิตที่ สามารถยอมรับสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นได้” ต่างหากค่ะ